AION Y Plus 490 Premium ลองแล้วอยากมีไว้ครอบครอง

AION Y Plus 490 Premium ลองแล้วอยากมีไว้ครอบครอง

กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า กำลังเป็นที่ต้องการของวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคใหม่ GAC AION ค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นย่อยใหม่  AION Y Plus 490 Premium ที่มีดีไซน์ที่ล้ำสมัย ห้องโดยสารสุดกว้างขวาง เพิ่มฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เสริมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มระบบ โดยประกาศราคาขายไว้ที่ 995,900 บาทเท่านั้น

AION Y Plus คือรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ ที่จะมาตีตลาดกลุ่มลูกค้าครอบครัวยุคใหม่ ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ฟังก์ชั่นครบครัน เดินทางไปได้ทั้งระยะใกล้และไกล ตอบโจทย์ด้วยออปชั่นช่วยเหลือการขับขี่แบบล้ำยุค  ทั้งหมดนี้มาในรุ่นย่อย  AION Y Plus 490 Premium  ที่เพิ่มเติมฟังก์ชั่นใหม่มากถึง 24 รายการ ทั้งระบบไฟสูงอัจฉริยะ Intelligent High Beam Control (IHBC) ที่สามารถตรวจจับรถยนต์หรือวัตถุด้านหน้า เมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าระบบจะสลับเป็นไฟสูงอัตโนมัติ แต่ถ้ามีรถยนต์ขับสวน หรือ อยู่ด้านหน้าจะเปลี่ยนเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ เพิ่มการมองเห็นในการขับรถเวลากลางคืน ผู้ขับขี่จึงไม่จำเป็นต้องสลับระหว่างไฟสูงและไฟต่ำด้วยตนเอง  ระบบกล้องมองภาพแบบพาโนรามา Panorama HD 540 องศา รอบตัวรถ แสดงภาพรอบคัน 360° และภาพบริเวณด้านล่างแชสซี 180° โปร่งใส ซึ่งระบบกล้องให้การตอบสนองแบบเรียลไทม์ เมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระ หรือรอยต่อถนน หรือ สิ่งแปลกปลอมใต้ท้องรถนั้น สามารถให้มุมมองรอบด้านเหนือกว่ารถยนต์ในเซ็กเมนต์เดียวกัน ทำให้สามารถเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยได้ และหลีกเลี่ยงความเสียหายของแผ่นยางบริเวณแบตเตอรี่ใต้ท้องรถ

นอกจากนี้ ยังมีตัวช่วยเหลือในการขับขี่ สำหรับคนที่ต้องการลดความเหนื่อยจากการขับขี่ทั้งในเมืองและขับขี่ทางไกล ด้วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control With Stop and Go (ACC S&G) สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจสั่ง ทั้งการตั้งค่าความเร็วการขับขี่ การเว้นรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และควบคุมให้รถอยู่ในเลน หากระบบตรวจพบว่าเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากเกินไป ระบบจะชะลอความเร็วอัตโนมัติ และจะเร่งความเร็วตามความเร็วที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติหลังออกจากโค้ง ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุและเซฟตี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปในตัว แต่หากเป็นการขับขี่ในเมือง เช่น กรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัดนั้น  AION Y Plus 490 Premium ใหม่มีฟังก์ชันช่วยควบคุมความเร็วในสภาพการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ Trafic Jam Assist (TJA) โดยผู้ขับขี่สามารถตั้งความเร็วได้ ≤ 60 กม./ชม. ระบบจะทำการติดตามรถคันหน้าในเลน ทำการเร่งความเร็ว ลดความเร็ว เบรก และรักษาตำแหน่งที่ปลอดภัยตรงกลางเลน เป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยลดความเมื่อยล้าต่อผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก 

• ภายนอกและภายในร่วมสมัย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ส่วนของรูปโฉมภายนอก ดีไซน์ออกแบบมาได้อย่างล้ำสมัย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความเป็นรถยนต์ครอบครัว โดดเด่นด้วยไฟหน้า  Angel Wing กับกระจังหน้าไดนามิก สไตล์สปอร์ต  พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว  ภายในมาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ Seat ventilation สำหรับที่นั่งคนขับและฟังก์ชั่นใหม่ ระบบ Welcome Seat ปรับระดับที่นั่งอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูรถ มุมประตูเปิดกว้างได้กว้างเกือบ 90 องศา เพื่อการเข้าออกที่สะดวกของ AION Y Plus 490 Premium

จุดเด่นสำคัญของภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งสามารถพับเบาะหน้าให้ราบลงเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดใหญ่ 1.8 เมตร เบาะผู้โดยสารตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ-ที่พักแขนตรงกลางตอนหลัง   ซึ่งพื้นที่โดยสารตอนหลังสามารถพับเบาะหลังให้กลายเป็นพื้นที่บรรทุกสัมภาระพื้นเรียบความจุมากถึง 1200 ลิตร และฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ให้คุณได้สะดวกสบายในการขนสัมภาระยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นยังมีออพชั่นใหม่สำหรับ AION Y Plus 490 Premium มาเต็มขั้น อย่าง กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging)  สร้างบรรยากาศให้เหนือยิ่งกว่าด้วยไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 32 เฉดสี รองรับการเปลี่ยนแปลงตามจังหวะดนตรี มีระบบความบันเทิง (Entertainment) ระบบนำทาง (Navigation System) ต่อระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ สำหรับการ เชื่อมต่อกับระบบควบคุมคำสั่งรถยนต์จากระยะไกล ผ่าน Application พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (Voice Command TH/EN) และฟังก์ชั่น V2L ระบบเชื่อมต่อและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก ที่จะสามารถดึงกำลังไฟสำหรับการใช้งานทำกิจกรรมกลางแจ้ง  ถือเป็นจุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

หลังทดลองขับ AION Y Plus 490 Premium แล้วหากคุณมองหารถยนต์ Compact SUV อยากมีรถไว้ครอบครองในราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท  AION Y Plus 490 Premium ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะจุดเด่นของภายในที่กว้างขวาง พื้นที่เหนือศีรษะโปร่ง แอร์เย็นสบาย และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานถึงสี่แบบ

แบบที่หนึ่ง คือ  Eco Mode ที่จะเน้นสำหรับผู้ขับขี่ใช้งานแบบประหยัดพลังงานสูงสุด

แบบที่สอง  Normal Mode จะใช้ในการขับขี่แบบทั่วไป อัตราเร่งแซงที่ดี แต่กินกำลังไฟปกติ ซึ่งจะได้ทั้งเรื่องของพละกำลังและความประหยัดไปพร้อมกัน

แบบที่สาม Sport Mode เป็นโหมดการขับขี่ที่ใช้เพื่อการขับขี่ความเร็วสูง ใช้กำลังไฟฟ้าทั้งหมดทำงานเพื่อให้สามารถเร่งแซงและทำความเร็วช่วงปลายได้ดีมากยิ่งขึ้น

และแบบที่สี่ i- Pedal Mode จะเป็นโหมดที่ช่วยให้สามารถดึงพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพิ่มระยะการขับขี่ให้มากขึ้น 

เรื่องของการขับขี่ก็ถือว่า มีความนุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮาก อัตราเร่งถือว่าค่อนข้างดี ทั้งเรื่องของการออกตัวและการเร่งแซงโดยเฉพาะในโหมดสปอร์ต ช่วยให้การขับขี่สนุกสนานและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น            จุดเด่นในด้านการขับขี่ ช่วงล่างเน้นความนุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง ขับสบาย สไตล์ของรถเกาะโค้งได้ดีในความเร็วที่เหมาะสม แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ก็อาจจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พวงมาลัยไฟฟ้าแม้จะปรับระดับน้ำหนักได้แต่ก็ยังเน้นการใช้งานปกติมากกว่า การควบคุมดีแต่ความคมและความแม่นยำยังถือว่าน้อยไปหน่อย ส่วนเรื่องการบริการหลังการขายแม้จะเป็นค่ายรถยนต์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศ  แต่ก็มีศูนย์บริการ พื้นที่สต๊อกอะไหล่ที่มีพร้อมสำหรับบริการลูกค้า มีราคาชิ้นส่วนและเซอร์วิสที่สมเหตุสมผล และเราก็ต้องยอมรับเรื่องของเบี้ยประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปภายใน

สรุปโดยรวม AION Y Plus 490 Premium ถือว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV 100%) และรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ Compact SUV ที่ตอบสนองการใช้งานได้ในทุกกิจกรรม.