สำนักงาน คปภ. พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
สำนักงาน คปภ. พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
จากกรณีพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้ประสบอุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน รถยนต์ และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงได้บูรณาการร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
โดยเบื้องต้นได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) ว่า 1. พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ.จังหวัดยะลา ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 32,830 ครัวเรือน จำนวน 131,685 คน
มีผู้เสียชีวิต 4 ราย จากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย บ้านเรือน 71 หลังและอาคารสำนักงานเทศบาล
เบตง 1 แห่ง ได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัย ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 420 คัน ตรวจสอบพบทำประกันภัย 215 คัน ความเสียหายประมาณ 35,275,000 บาท และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 490 ไร่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัยกับสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา
- พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ.จังหวัดปัตตานี ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 147,002 ครัวเรือน จำนวน 428,223 คน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย บ้านเรือนจำนวน 216 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 71,721 ไร่ ด้านการประมง จำนวน 238 ราย
ความเสียหายประมาณ 26,897,000 บาท ด้านปศุสัตว์ 362,203 ตัว ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 33 คัน
มีประกันภัยกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3 คัน และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 30 คัน - พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ จำนวน 94,189 ครัวเรือน 343,154 คน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัย ในส่วนของรถยนต์ได้รับความเสียหาย 3 คัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบการทำประกันภัย บ้านเรือน จำนวน 19 หลัง พื้นที่เกษตรเสียหาย 3,726 ไร่ ปศุสัตว์ 60,432 ราย
- พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ.จังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบ 16 อำเภอ จำนวน 212,727 ครัวเรือน 542,827 คน บ้านเรือนเสียหาย 1,594 หลัง พื้นที่การเกษตร 10,818 ไร่ บ่อปลา 1,751 บ่อ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย บาดเจ็บ 10 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุ จำนวน 1 ราย ทุนประกันภัยจำนวน 100,000 บาท มีรถยนต์ที่ได้รับแจ้งความเสียหายจากบริษัทประกันภัย จำนวน 433 คัน
สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สำนักงาน คปภ. จังหวัด เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือด้านการประกันภัยที่ประสบภัยน้ำท่วม เช่น บ้านเรือน รถยนต์ การประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุ เป็นต้น รวมทั้งดูแลป้องกันทรัพย์สินของสำนักงานไม่ให้ได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้สำนักงาน คปภ. ภาคและจังหวัด
ได้ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย (สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินจังหวัด) ลงพื้นที่บริจาคเครื่องอุปโภค-บริโภคให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประกันภัยอัคคีภัย ความคุ้มครองเกี่ยวกับภัยน้ำท่วม และการทำประกันภัยเพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารความเสี่ยงให้กับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน ตลอดจนติดต่อประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านช่องทางเพจ เฟซบุ๊ก ไลน์
ให้ประชาชนทราบในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. ขอให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ซื้อไว้ว่าให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วมหรือไม่ อย่างไร โดยกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ได้แก่ การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัยที่ซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม และการประกันภัยพืชผลทางการเกษตร เช่น การประกันภัยข้าวนาปี การประกันภัยทุเรียน รวมถึงการทำประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับอาคารมีทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับตามที่กฎหมายกำหนด
ในส่วนของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป และ ระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคันซึ่งในกรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเรื่องประกันภัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th หรือ สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) 0-7425-2105 ต่อ 106 E-mail : Region09@oic.or.th