คปภ. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีเครนก่อสร้างทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว พังถล่ม พร้อมประสานบริษัทประกันภัยเร่งเยียวยาความเสียหายด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

64
0
Share:

คปภ. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีเครนก่อสร้างทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว พังถล่ม

พร้อมประสานบริษัทประกันภัยเร่งเยียวยาความเสียหายด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

จากกรณีคานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 หมู่ที่ 2 ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้พังถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 9 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นั้น เบื้องต้นสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะพื้นที่เกิดเหตุเร่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบการทำประกันภัยและติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัว เพื่อนำระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า ผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ได้มีการทำประกันภัยเครนสำหรับสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กเลื่อน ไว้กับบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นความคุ้มครองวันที่ 23 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 23 มกราคม 2568 จำนวนเงินเอาประกันภัย 22,000,000 บาท

นอกจากนี้ได้ตรวจสอบในเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวนทุนประกันภัย 100,000 บาท และยังได้ทำกรมธรรม์ภัยคุ้มครองสินเชื่อไว้กับ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ณ วันเสียชีวิต/ทุพพลภาพ จำนวนเงิน 440,488 บาท และสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองอุบัติเหตุทุนคงที่ตลอดสัญญาจำนวน 1,541,732 บาท ผลประโยชน์การจ่ายเงินเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย โดยผู้รับประโยชน์หลักคือ (ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้) ผู้รับประโยชน์รอง คือ (ภรรยา) ส่วนผู้ประสบภัยรายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย

สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ สำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรสาคร
ได้ประสานบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภท         อื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ

สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและมีความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่เกี่ยวกับระบบ
สาธารณูปโภค หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่งที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุอยู่เนื่อง ๆ จึงควรทำประกันภัยให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186

Share: